ก่อนหน้า ถัดไป

คลาส BirtDateTime

คลาส BirtDateTime จัดเตรียมฟังก์ชันในการกำหนดเวลาระหว่างสองวันหรือสองเวลา, เพื่อเพิ่มหรือลบช่วงเวลา, และเพื่อขอรับส่วนของวันที่ เมื่อช่อวงของวันเป็นเพียงจำนวน แอ็พพลิเคชันสามารถใช้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ปกติบนช่วงเวลา ได้แก่ การคูณ หาร บวก และลบ เป็นต้น คลาสนี้เป็นแบบสแตติก แอ็พพลิเคชันไม่สามารถสร้างอินสแตนซ์ของคลาส

BirtDateTime.addDay

ฟังก์ชันส่งคืนวันที่ใหม่ที่มีผลมาจากการเพิ่มจำนวนวันที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ จำนวนวันที่ต้องการบวกสามารถเป็นจำนวนลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addDay( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ Date อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนค่าวันที่เริ่มต้น

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนวันที่ต้องการเพิ่มให้กับวันที่ ทศนิยมถูกใช้ในรูปของเลขจำนวนเต็ม, ซึ่งจะปัดเศษลงให้ใกล้เคียงกับเลขจำนวนเต็ม

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ที่เป็นผลลัพธ์จากการเพิ่มจำนวนวันที่ระบุเฉพาะให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกวันเข้ากับวันที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addDay( startDate, 1 ); // returns Jan 01, 2009
endDate = BirtDateTime.addDay( startDate, -1 ); // returns Dec 30, 2008

ตัวอย่างต่อไปนี้จะเพิ่ม 15 วันเข้ากับแต่ละค่าของวันในฟิลด์ InvoiceDate :

BirtDateTime.addDay( row["InvoiceDate"], 15 )

BirtDateTime.addHour

ฟังก์ชันส่งคืนวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ จำนวนชั่วโมงที่ต้องการลบสามารถเป็นจำนวนลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addHour( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันที่เริ่มต้น ถ้าวันที่เริ่มต้นไม่มีค่าเวลาอยู่, ฟังก์ชันจะสมมติเวลาว่าเป็นเที่ยงคืน (00:00:00)

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนชั่วโมงที่เพิ่มให้กับวันที่

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ที่เป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนชั่วโมงที่ระบุไว้ให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกชั่วโมงเข้ากับวันและเวลาที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31 15:00:00";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addHour( startDate, 8 ); // returns Dec 31, 2008 11:00 PM
endDate = BirtDateTime.addHour( startDate, -8 ); // returns Dec 31, 2008 7:00 AM

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวก 36 ชั่วโมงเข้ากับแต่ละค่าวันในฟิลด์ StartTime:

BirtDateTime.addHour( row["StartTime"], 36 )

BirtDateTime.addMinute

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนนาทีที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ จำนวนนาทีที่ต้องการเพิ่มสามารถเป็นค่าลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addMinute( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันที่เริ่มต้น ถ้าวันที่เริ่มต้นไม่มีค่าเวลาอยู่, ฟังก์ชันจะสมมติเวลาว่าเป็นเที่ยงคืน (00:00:00)

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนนาทีที่ต้องการเพิ่มให้กับวันที่

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ที่เป็นผลลัพธ์มาจาการเพิ่มจำนวนนาทีที่ระบุเฉพาะให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกนาทีเข้ากับวันและเวลาที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31 10:30:00";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addMinute( startDate, 45 );
// returns Dec 31, 2008 11:15 AM
endDate = BirtDateTime.addMinute( startDate, -30 );
// returns Dec 31, 2008 10:00 AM

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวก 15 นาทีเข้ากับค่าวันที่ ในฟิลด์ StartTime:

BirtDateTime.addMinute( row["StartTime"], 15 )

BirtDateTime.addMonth

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนเดือนให้กับวันที่ จำนวนเดือนสามารถเป็นค่าลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าที่ถูกต้องเสมอ ถ้าจำเป็น, วันที่เป็นส่วนหนึ่งของวันที่ที่เป็นผลลัพธ์จะถูกปรับลงให้เป็นวันสุดท้ายของเดือนที่เป็นผลลัพธ์ในปีที่เป็นผลลัพธ์ ตัวอย่างเช่น, ถ้าคุณเพิ่ม 1 หนึ่งให้กับ Jan 31, 2008, addMonth( ) จะส่งคืน Feb 29, 2008 (2008 เป็นปีอธิกสุรทิน), ไม่ใช่ Feb 31, 2008

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addMonth( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ Date อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนค่าวันที่เริ่มต้น

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนเดือนที่ต้องการเพิ่มให้กับวันที่ ทศนิยมถูกใช้เป็นเลขจำนวนเต็ม, ซึ่งปัดเศษลง

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนเดือนที่ระบุไว้ให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกเดือนเข้ากับวันที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addMonth( startDate, 1 ); // returns Jan 31, 2009
endDate = BirtDateTime.addMonth( startDate, -1 ); // returns Nov 30, 2008
endDate = BirtDateTime.addMonth( startDate, 2 ); // returns Feb 28, 2009

ตัวอย่างต่อไปนี้จะเพิ่ม 10 เดือนให้กับแต่ละค่าวันที่ในฟิลด์ InvoiceDate:

BirtDateTime.addMonth( row["InvoiceDate"], 10 )

BirtDateTime.addQuarter

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากจำนวนไตรมาสที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ ไตรมาส จะเท่ากับสามเดือน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณบวก 2 ไตรมาสเข้ากับ Sep 10, 2008 ฟังก์ชันจะคืนค่า Mar 10, 2009 จำนวนไตรมาสที่ต้องการบวกสามารถเป็นค่าลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addQuarter( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันที่เริ่มต้ร

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนไตรมาสที่ต้องการเพิ่มให้กับวันที่

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนไตรมาสที่ระบุไว้ให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกไตรมาสเข้ากับวันที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-15";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addQuarter( startDate, 1 ); //returns Mar 15, 2009
endDate = BirtDateTime.addQuarter( startDate, -2 ); //returns Jun 15, 2008

ตัวอย่างต่อไปนี้จะเพิ่ม 2 ไตรมาสให้กับแต่ละค่าในฟิลด์ ForecastClosing:

BirtDateTime.addQuarter( row["ForecastClosing"], 2 )

BirtDateTime.addSecond

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนวินาทีที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ จำนวนวินาทีสามารถเป็นค่าลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addSecond( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันที่เริ่มต้น ถ้าวันที่เริ่มต้นไม่มีค่าเวลาอยู่, ฟังก์ชันจะสมมติเวลาว่าเป็นเที่ยงคืน (00:00:00)

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนวินาทีที่เพิ่มให้กับวันที่

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date ผลลัพธ์จากการเพิ่มจำนวนที่ระบุไว้ให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกวินาทีเข้ากับวันและเวลาที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31 10:30:00";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addSecond( startDate, 10000 );
// returns returns Dec 31, 2008 1:16:40 PM
endDate = BirtDateTime.addSecond( startDate, -10000 );
// returns Dec 31, 2008 7:43:20 AM

ตัวอย่างต่อไปนี้จะเพิ่ม 6000 วินาทีให้กับค่าวันที่ในฟิลด์ StartTime:

BirtDateTime.addSecond( row["StartTime"], 6000 )

BirtDateTime.addWeek

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนสัปดาห์ที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ จำนวนสัปดาห์สามารถเป็นค่าลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addWeek( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันที่เริ่มต้ร

n

อ็อบเจ็กต์ Number จำนวนสัปดาห์ที่ต้องการเพิ่มให้กับวันที่

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนสัปดาห์ที่ระบุเฉพาะให้กับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกสัปดาห์เข้ากับวันที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addWeek( startDate, 1 ); // returns Jan 07, 2009
endDate = BirtDateTime.addWeek( startDate, -1 ); // returns Dec 24, 2008

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวก 2 สัปดาห์เข้ากับค่าวันในฟิลด์ InvoiceDate :

BirtDateTime.addWeek( row["InvoiceDate"], 2 )

BirtDateTime.addYear

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่ใหม่ที่เป็นผลลัพธ์มาจากการเพิ่มจำนวนปีที่กำหนดไว้ให้กับวันที่ จำนวนปีที่ต้องการบวกสามารถเป็นค่าลบได้ ในกรณีนั้น, ผลลัพธ์จะเหมือนกับตัวเลขที่ถูกลบจากวันที่

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.addYear( Date date, Number n )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันที่เริ่มต้ร

n

อ็อบเจ็ก์ Number จำนวนปีที่เพิ่มให้กับวันที่ ทศนิยมถูกใช้เป็นเลขจำนวนเต็ม, ซึ่งปัดเศษลง

คืนค่า

วันที่ที่เป็นผลลัพธ์จากการบวกจำนวนปีที่ระบุเข้ากับวันที่เริ่มต้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวกปีเข้ากับวันที่ระบุ:

var startDate = "2008-12-31";
var endDate;
endDate = BirtDateTime.addYear( startDate, 1 ); // returns Dec 31, 2009
endDate = BirtDateTime.addYear( startDate, -1 ); // returns Dec 31, 2007

ตัวอย่างต่อไปนี้จะบวก 5 ปีเข้ากับค่าวันที่ ในฟิลด์ HireDate:

BirtDateTime.addYear( row["HireDate"], 5 )

BirtDateTime.day

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนตัวเลขจาก 1 ถึง 31 ที่แทนค่าวันของเดือนสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น, หากวันที่คือ 2009-01-19, ฟังก์ชันจะส่งคืน 19

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.day( Date date )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ Date อ็อบเจ็กต์ date ที่ต้องการรับค่าวันที่

คืนค่า

เลขจำนวนเต็มที่แทนค่าวันของเดือนสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนวันของเดือนสำหรับแต่ละค่าในฟิลด์ ShipDate:

BirtDateTime.day( row["ShipDate"] )

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าวันของเดือนสำหรับวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.day( (BirtDateTime.today())

BirtDateTime.diffDay

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนวันระหว่างสองวัน วันถูกคำนวณโดยลบค่าวันของวันที่แรกจากค่าวันของวันที่ที่สอง ตัวอย่างเช่น, ถ้าวันที่แรกคือ 2008-12-30 23:59:59 และวันที่ที่สองคือ 2008-12-31 00:00:00, ฟังก์ชันจะส่งคืน 1 วัน, แม้ว่าจะมีเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้นที่แยกวันสองวัน

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffDay( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนวันระหว่างสองวัน

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนจำนวนวันระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffDay( "2009-01-01", "2009-04-15" ) // returns 104

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนวันจากวันที่ปัจจุบันจนถึงวันที่สิ้นสุดของ 2009:

BirtDateTime.diffDay( BirtDateTime.today(), "2009-12-31" )

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนวันระหว่างค่าในฟิลด์ InvoiceDate และ PaymentDate:

BirtDateTime.diffDay( row["InvoiceDate"], row["PaymentDate"] )

BirtDateTime.diffHour

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนชั่วโมงระหว่างวันสองวัน ชั่วโมงถูกคำนวณโดยลบค่าชั่วโมงของวันที่แรกจากค่าชั่วโมงของวันที่สอง ตัวอย่างเช่น ถ้าวันแรกคือ 2009-01-31 1:30:00 และวันที่สองคือ 2009-01-31 2:00:00 ฟังก์ชันจะคืนค่า 1 แม้ว่ามีเพียง 30 นาทีที่แยกวันสองวัน ถ้าวันที่ไม่ได้มีค่าเวลา, ฟังก์ชันจะสมมติว่าเวลาว่าเป็นเที่ยงคืน (00:00:00)

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffHour( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนชั่วโมงระหว่างสองวัน

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนชั่วโมงระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffHour( "2009-01-31 12:00:00", "2009-02-01 12:00:00")
// returns 24
BirtDateTime.diffHour( "2009-01-31", "2009-02-01 12:00:00")
// returns 36. เนื่องจากวันแรกไม่มีเวลา จะสันนิษฐานว่าเป็นเวลาเที่ยงคืน

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนชั่วโมงจากวันที่และเวลาปัจจุบันไปจนถึงวันสุดของ 2009:

BirtDateTime.diffHour( BirtDateTime.now(), "2009-12-31" );

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนชั่วโมงระหว่างค่าในฟิลด์ StartTime และ FinishTime:

BirtDateTime.diffHour( row["StartTime"], row["FinishTime"] )

BirtDateTime.diffMinute

ฟังก์ชันต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนนาทีระหว่างวันสองวัน นาทีถูกคำนวณโดยลบค่านาทีของวันที่แรกจากค่านาทีของวันที่ที่สอง ตัวอย่างเช่น ถ้าวันแรกคือ 2009-01-31 1:30:59 และวันที่สองคือ 2009-01-31 1:31:00 ฟังก์ชันจะคืนค่า 1 นาที แม้ว่ามีเพียง 1 วินาที่ที่แยกระหว่างสองวัน ถ้าวันที่ไม่ได้มีค่าเวลา, ฟังก์ชันจะสมมติว่าเวลาว่าเป็นเที่ยงคืน (00:00:00)

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffMinute( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนนาทีระหว่างสองวันที่

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนนาทีระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffMinute( "2009-01-31 1:30:30", "2009-01-31 10:45:00")
// returns 555
BirtDateTime.diffMinute( "2009-01-31", "2009-01-31 12:00:00")
// returns 720. เนื่องจากวันแรกไม่มีเวลา จะสันนิษฐานว่าเป็นเวลาเที่ยงคืน

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนนาทีจากวันที่และเวลาปัจจุบันไปจนถึงวันที่เริ่มต้นของ 2010:

BirtDateTime.diffMinute( BirtDateTime.now(), "2010-01-01" )

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนนาทีระหว่างค่าในฟิลด์ StartTime และ FinishTime:

BirtDateTime.diffMinute( row["StartTime"], row["FinishTime"] )

BirtDateTime.diffMonth

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนเดือนระหว่างวันสองวัน เดือนถูกคำนวณโดยการลบค่าเดือนของวันที่เริ่มต้นออกจากค่าเดือนของวันที่ที่สอง ตัวอย่างเช่น, ถ้าวันที่แรกคือ 2009-01-31 และวันที่ที่สองคือ 2009-02-01, ฟังก์ชันจะส่งคืน 1 เดือน, แม้ว่ามีหนึ่งวันที่แยกระหว่างวันสองวัน

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffMonth( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนเดือนระหว่างสองวัน

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนเดือนระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffMonth( "2009-01-31", "2009-04-15") // returns 3

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนเดือนจากวันที่ปัจจุบันไปยังวันที่เริ่มต้นของ 2010:

BirtDateTime.diffMonth( BirtDateTime.today(), "2010-01-01" );

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนเดือนระหว่างค่าในฟิลด์ ProjectStart และ ProjectComplete:

BirtDateTime.diffMonth( row["ProjectStart"], row["ProjectComplete"] )

BirtDateTime.diffQuarter

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนไตรมาสระหว่างวันสองวัน ไตรมาสถูกคำนวณโดยลบค่าเดือนของวันที่แรกออกจากค่าเดือนของวันที่ที่สอง 1 ไตรมาสเท่ากับ 3 เดือน ตัวอย่างเช่น, วันที่แรกคือ 2009-01-31 และวันที่ที่สองคือ 2009-07-01, ฟังก์ชันจะส่งคืน 2 ถ้าวันที่แรกคือ 2009-01-01 และวันที่ที่สองคือ 2009-09-30, ฟังก์ชันจะยังคงส่งคืน 2

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffQuarter( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนไตรมาสระหว่างสองวันที่

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนไตรมาสระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffQuarter( "2009-01-31", "2009-04-15") // returns 1

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนไตรมาสจากวันที่ปัจจุบันจนถึงวันที่เริ่มต้นของ 2010:

BirtDateTime.diffQuarter( BirtDateTime.today(), "2010-01-01" );

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนไตรมาสระหว่างค่าในฟิลด์ ProjectStart และ ProjectComplete:

BirtDateTime.diffQuarter( row["ProjectStart"], row["ProjectComplete"] )

BirtDateTime.diffSecond

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนวินาทีระหว่างวันสองวัน ถ้าวันที่ไม่ได้มีค่าเวลา, ฟังก์ชันจะสมมติว่าเวลาว่าเป็นเที่ยงคืน (00:00:00)

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffSecond( date1, date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนวินาทีระหว่างสองวันที่

ตัวอย่าง

ตัวอย่างนี้จะคืนจำนวนวินาทีระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffSecond( "2009-01-31 11:30:30", "2009-01-31 12:00:00")
// returns 1770
BirtDateTime.diffSecond( "2009-01-31", "2009-01-31 1:00:00")
// returns 3600. เนื่องจากวันแรกไม่มีเวลา จะสันนิษฐานว่าเป็นเวลาเที่ยงคืน

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนวินาทีจากวันที่ปัจจุบันและเวลาไปเป็นวันที่เริ่มต้นของ 2010:

BirtDateTime.diffSecond( BirtDateTime.now(), "2010-01-01" )

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนวินาทีระหว่างค่าในฟิลด์ StartTime และ FinishTime:

BirtDateTime.diffSecond( row["StartTime"], row["FinishTime"] )

BirtDateTime.diffWeek

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนสัปดาห์ระหว่างวันสองวัน สัปดาห์ถูกคำนวณด้วยการลบจำนวนสัปดาห์ของวันที่แรกออกจากจำนวนสัปดาห์ของวันที่ที่สอง ตัวอย่างเช่น, ถ้าวันที่แรกคือ 2009-01-02 (สัปดาห์ที่ 1 ของปี) และวันที่ที่สองคือ 2009-01-05 (สัปดาห์ที่ 2 ของปี), ฟังก์ชันจะส่งคืนสัปดาห์ที่ 1, แม้ว่าจะมีสามวันที่แยกวันสองวัน

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffWeek( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนสัปดาห์ระหว่างวันสองวัน

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนสัปดาห์ระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffWeek( "2009-01-01", "2009-02-01") // returns 5

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนสัปดาห์จากวันที่ปัจจุบันจนถึงวันที่เริ่มต้นของ 2010:

BirtDateTime.diffWeek( BirtDateTime.today(), "2010-01-01" );

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนสัปดาห์ระหว่างค่าในฟิลด์ ProjectStart และ ProjectComplete:

BirtDateTime.diffWeek( row["ProjectStart"], row["ProjectComplete"] )

BirtDateTime.diffYear

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนปีระหว่างวันสองวัน ปีจะถูกคำนวณโดยลบค่าปีของวันที่แรกออกจากค่าปีของวันที่ที่สอง ตัวอย่างเช่น, ถ้าวันที่แรกคือ 2009-01-01 และวันที่ที่สองคือ 2009-12-31, ฟังก์ชันจะส่งคืน 0 ถ้าวันที่แรกคือ 2008-11-15 และวันที่ที่สองคือ 2009-01-15, ฟังก์ชันจะส่งคืน 1

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffYear( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนปีระหว่างสองวันที่

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนปีระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffYear( "2005-01-01", "2009-06-01") // returns 4

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนปีระหว่างแต่ละค่าในฟิลด์ HireDate และวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.diffYear( row["HireDate"], BirtDateTime.today() )

BirtDateTime.diffYear

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าจำนวนปีระหว่างวันสองวัน ปีจะถูกคำนวณโดยลบค่าปีของวันที่แรกออกจากค่าปีของวันที่ที่สอง ตัวอย่างเช่น, ถ้าวันที่แรกคือ 2009-01-01 และวันที่ที่สองคือ 2009-12-31, ฟังก์ชันจะส่งคืน 0 ถ้าวันที่แรกคือ 2008-11-15 และวันที่ที่สองคือ 2009-01-15, ฟังก์ชันจะส่งคืน 1

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.diffYear( Date date1, Date date2 )

พารามิเตอร์

date1

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา

date2

อ็อบเจ็กต์ date ที่แทนวันสุดท้ายของช่วงเวลา

คืนค่า

Integer จำนวนปีระหว่างสองวันที่

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าจำนวนปีระหว่างวันที่ระบุ:

BirtDateTime.diffYear( "2005-01-01", "2009-06-01") // returns 4

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนปีระหว่างแต่ละค่าในฟิลด์ HireDate และวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.diffYear( row["HireDate"], BirtDateTime.today() )

BirtDateTime.firstDayOfMonth

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่สำหรับวันที่แรกของเดือนที่อยู่ในช่วงวันที่อินพุต

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.firstDayOfMonth( Date date)

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับค่าเดือน

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่แรกของเดือนสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงค่าเดือนที่คืนค่ามาสำหรับวันที่ระบุ:

BirtDateTime.firstDayOfMonth( "2009-02-15" ) // ส่งคืน 2009-02-01

BirtDateTime.firstDayOfQuarter

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่สำหรับวันที่แรกของไตรมาสที่อยู่ในช่วงวันที่อินพุต

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.firstDayOfQuarter( Date date)

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับค่าไตรมาส

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่แรกของไตรมาสสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงค่าไตรมาสที่ส่งคืนสำหรับวันที่ที่ระบุเฉพาะ:

BirtDateTime.firstDayOfQuarter( "2009-02-15" ) // ส่งคืน 2009-01-01

BirtDateTime.firstDayOfWeek

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่สำหรับวันที่แรกของสัปดาห์ที่อยู่ในช่วงวันที่อินพุต, ซึ่งจะเป็นวันอาทิตย์เสมอ

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.firstDayOfWeek( Date date)

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับค่าสัปดาห์

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่แรกของสัปดาห์ที่รับค่าที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงค่าสัปดาห์ที่ส่งคืนสำหรับข้อมูลที่ระบุเฉพาะ:

BirtDateTime.firstDayOfWeek( "2009-02-15" ) // ส่งคืน 2009-02-15

BirtDateTime.firstDayOfYear

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่สำหรับวันที่แรกของปีที่อยู่ในช่วงวันที่อินพุต

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.firstDayOfYear( Date date)

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับค่าปี

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่แรกของปีสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงค่าปีที่ส่งคืนสำหรับวันที่ระบุเฉพาะ:

BirtDateTime.firstDayOfYear( "2009-02-15" ) // ส่งคืน 2009-01-01

BirtDateTime.month

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าเดือนสำหรับวันที่ระบุ ขึ้นอยู่กับอ็อพชันที่คุณระบุไว้, ฟังก์ชันส่งคืนเดือนในรูปของตัวเลข, ชื่อเดือนแบบเต็ม, หรือชื่อเดือนแบบย่อ ชื่อเดือนเป็นไปตามโลแคล

ไวยากรณ์

string BirtDateTime.month( Date date, integer option )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับค่าเดือน

อ็อพชัน

Integer ตัวเลือก ตัวเลขที่แทนรูปแบบเดือนที่ต้องการคืนค่า ใช้หนึ่งในค่าต่อไปนี้:

*
*
*

ถ้าคุณตัดอาร์กิวเมนต์นี้ ฟังก์ชันจะคืนค่าเดือนเป็นตัวเลข

คืนค่า

String เดือนสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงค่าเดือนที่คืนค่ามาสำหรับวันที่ระบุ:

BirtDateTime.month( "2009-02-15" ) // returns 2
BirtDateTime.month( "2009-02-15", 2 ) // returns February
BirtDateTime.month( "2009-02-15", 3) // returns Feb

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าเดือนสำหรับวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.month( (BirtDateTime.today())

BirtDateTime.now

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าวันที่และเวลาปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น Feb 2, 2009 2:05 PM

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.now( )

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่และเวลาปัจจุบัน

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนชั่วโมงจากวันที่และเวลาปัจจุบันจนถึงคริสต์มาส:

BirtDateTime.diffHour( BirtDateTime.now(), "2009-12-25" )

BirtDateTime.quarter

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนตัวเลขจาก 1 ถึง 4 ที่แทนค่าไตรมาสที่อยู่ในช่วงวันที่ที่กำหนดไว้ ไตรมาสแรกเริ่มต้นเมื่อเดือนมกราคม 1

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.quarter( Date date )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับตัวเลขไตรมาส

คืนค่า

Integer ตัวเลขไตรมาสสำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงตัวเลขไตรมาสที่คืนค่ามาสำหรับวันที่ระบุ:

BirtDateTime.quarter( "2009-02-15" ) // returns 1
BirtDateTime.quarter( "2009-07-10" ) // returns 3

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนตัวเลขแสดงไตรมาสสำหรับแต่ละค่าในฟิลด์ CloseDate:

BirtDateTime.quarter( row["CloseDate"] )

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าตัวเลขไตรมาสสำหรับวันปัจจุบัน:

BirtDateTime.quarter( (BirtDateTime.today() )

BirtDateTime.today

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนวันที่ปัจจุบันที่ประกอบด้วยค่าเวลาเที่ยงคืน, ตัวอย่างเช่น, Feb 2, 2009 12:00 AM.

ไวยากรณ์

Date BirtDateTime.today( )

คืนค่า

อ็อบเจ็กต์ Date วันที่ปัจจุบันที่มีค่าเวลาเที่ยงคืน

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนจำนวนวันจากวันที่ปัจจุบันจนถึงคริสต์มาส:

BirtDateTime.diffDay( BirtDateTime.today(), "2009-12-25" )

ตัวอย่างต่อไปนี้คำนวณจำนวนปีจากแต่ละค่าในฟิลด์ข้อมูล HireDate จนถึงวันที่ปัจจุบัน

BirtDateTime.diffYear( [HireDate], BirtDateTime.today() )

BirtDateTime.week

ฟังก์ชันนี้ส่งคืนจำนวนตั้งแต่ 1 ถึง 52 ที่แทนค่าตัวเลขสัปดาห์สำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.week( date )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับตัวเลขสัปดาห์

คืนค่า

Integer ตัวเลขสัปดาห์สำหรับวันที่ที่กำหนดไว้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงตัวเลขสัปดาห์ที่คืนค่ามาสำหรับวันที่ระบุ:

BirtDateTime.week( "2009-02-15" ) // returns 8
BirtDateTime.week( "2009-10-12" ) // returns 42

ตัวอย่างต่อไปนี้ส่งคืนตัวเลขสัปดาห์สำหรับแต่ละค่าในฟิลด์ CloseDate:

BirtDateTime.week( row["CloseDate"] )

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าตัวเลขสัปดาห์สำหรับวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.week( (BirtDateTime.today() )

BirtDateTime.weekDay

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าวันของสัปดาห์สำหรับวันที่ระบุ ขึ้นอยู่กับอ็อพชันที่คุณระบุ, ฟังก์ชันส่งคืนวันของสัปดาห์ในรูปของตัวเลข, ชื่อวันของสัปดาห์แบบเต็ม, หรือชื่อวันของสัปดาห์แบบย่อ ชื่อวันของสัปดาห์จะเป็นไปตามโลแคล

ไวยากรณ์

string BirtDateTime.weekDay( Date date, integer option )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับวันของสัปดาห์

อ็อพชัน

Integer ตัวเลือก จำนวนที่แทนรูปแบบที่คืนค่า ใช้หนึ่งในค่าต่อไปนี้:

*
*
*
*
*

ถ้าคุณตัดอาร์กิวเมนต์นี้ อาร์กิวเมนต์จะสันนิษฐานว่าคุณเลือกอ็อพชัน 1

คืนค่า

String วันของสัปดาห์สำหรับวันที่ที่ระบุ

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงค่าวันของสัปดาห์ที่คืนค่ามาสำหรับวันที่ระบุ:

BirtDateTime.weekDay( "2009-02-02" ) // returns 2
BirtDateTime.weekDay( "2009-02-02", 2 ) // returns 1
BirtDateTime.weekDay( "2009-02-02", 4 ) // returns Monday

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าวันของสัปดาห์สำหรับวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.weekDay( (BirtDateTime.today() )

BirtDateTime.year

ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าปีสี่หลักสำหรับวันที่ระบุ ตัวอย่างเช่น, ถ้าวันที่คือ 2009-01-19, ฟังก์ชันจะส่งคืน 2009

ไวยากรณ์

integer BirtDateTime.year( date )

พารามิเตอร์

date

อ็อบเจ็กต์ date ที่รับค่าปี

คืนค่า

Integer ค่าปีสี่หลักสำหรับวันที่ที่ระบุ

ตัวอย่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าปีสำหรับแต่ละค่าในฟิลด์ HireDate:

BirtDateTime.year( row["HireDate"] )

ตัวอย่างต่อไปนี้จะคืนค่าปีสำหรับวันที่ปัจจุบัน:

BirtDateTime.year( (BirtDateTime.today())

(c) ลิขสิทธิ์ Actuate Corporation 2013